Le Printemps Arabe (Spring Arab) เป็นเหตุการณ์ทางการเมืองและสังคมที่เกิดขึ้นในแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลางในช่วงปลายทศวรรษ 2010
เป็นการเคลื่อนไหวประชาชนที่ร้องเรียกร้องประชาธิปไตย สิทธิพลเมือง และการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นในチュニジアเมื่อเดือนธันวาคม 2010 หลังจาก Mohammed Bouazizi ซึ่งเป็นพ่อค้าขายผักถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจข่มเหงและยึดของกิน
การกระทำของ Bouazizi ได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงซึ่งนำไปสู่การล้มล้างระบอบเผด็จการของ Zine El Abidine Ben Ali
ความสำเร็จของการปฏิวัติในチュニジアได้กระตุ้นผู้คนในประเทศอื่นๆในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือให้ก่อการประท้วงเช่นกัน
ในเดือนมกราคมปี 2011 การประท้วงครั้งใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นในอียิปต์
ประชาชนชาวอียิปต์ออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาลของ Hosni Mubarak ซึ่งครองอำนาจมา 30 ปี
การประท้วงเหล่านี้ดำเนินไปอย่างรุนแรงเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ก่อนที่จะนำไปสู่การลาออกของ Mubarak ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2011
Le Printemps Arabe ได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
ในอียิปต์ การล้มล้าง Mubarak ได้นำไปสู่การเลือกตั้งครั้งแรกของประเทศ และMohamed Morsi จากพรรค Muslim Brotherhood ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
อย่างไรก็ตาม การปกครองของ Morsi มักถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นเผด็จการ และเขาถูกโค่นอำนาจโดยกองทัพในปี 2013
นอกจากนี้ Le Printemps Arabe ยังส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆในภูมิภาคด้วย
ใน Lybia Muammar Gaddafi ถูกโค่นล้มและสังหารหลังจากการสู้รบกันอย่างยาวนาน
ใน Syria การประท้วงได้กลายเป็นสงครามกลางเมืองที่รุนแรง ซึ่งยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปัจจุบัน
Le Printemps Arabe เป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
มันแสดงให้เห็นว่าความต้องการของประชาชนสำหรับการปกครองที่ดีและสิทธิพลเมืองสามารถเป็นพลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง และมันยังได้จุดประกายการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
การเกิดของสตีฟ มาร์เลць: จากนักดนตรีสู่ผู้จุดชนวน Le Printemps Arabe
สตีฟ มาร์เลць (Steve Marlet) เป็นนักเตะชาวฝรั่งเศสที่เคยเล่นให้กับหลายสโมสรชั้นนำในยุโรป
หลังจากเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในประเทศฝรั่งเศส เขาย้ายไปอังกฤษและเล่นให้กับ Fulham และ Middlesbrough
มาร์เลцьเป็นที่รู้จักกันดีในความสามารถในการยิงประตูที่เฉียบคม การจ่ายบอลที่แม่นยำ และความแข็งแกร่งทางกายภาพ
นอกจากนี้ยังมีสิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักเกี่ยวกับเขา
มาร์เลцьเป็นนักดนตรีที่มีความสามารถและมีความหลงใหลในดนตรียุโรปยุคกลางอย่างลึกซึ้ง
หลังจากที่อาชีพค้าแข้งของเขาล้มเหลว มาร์เลцьได้ทุ่มเทให้กับการดนตรีอย่างเต็มตัว
เขาเริ่มสร้างดนตรีที่ผสมผสานองค์ประกอบของดนตรียุโรปยุคกลางเข้ากับดนตรีร่วมสมัย และสิ่งนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญสำหรับ Le Printemps Arabe
มาร์เลць: แรงบันดาลใจให้ Le Printemps Arabe
มาร์เลцьได้รับการยกย่องจากนักเคลื่อนไหวหลายคนว่าเป็นแรงบันดาลใจในการจุดชนวน Le Printemps Arabe
ดนตรีของเขา ซึ่งเต็มไปด้วยความหึกเหิมและข้อความของการต่อต้าน อนาธิปไตย และการปลดปล่อย ได้กระตุ้นให้ผู้คนในโลกอาหรับลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิของตน
การแสดงคอนเสิร์ตของมาร์เลцьในประเทศอียิปต์และตูนิเซียในปี 2010 ก่อน Le Printemps Arabe จะเกิดขึ้น ได้รับความนิยมอย่างสูง และถูกมองว่าเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญในการจุดชนวนการเคลื่อนไหวประชาชน
ตารางแสดงรายละเอียดของมาร์เลць:
คุณสมบัติ | ค่า |
---|---|
ชื่อ | Steve Marlet |
สัญชาติ | ฝรั่งเศส |
อาชีพ | นักเตะ, นักดนตรี |
อายุ | 48 ปี (2023) |
ดนตรียอดนิยม | Dúlamán, Tadhg Ó Nualláin |
สถานการณ์ในปัจจุบัน: มาร์เลцьหลัง Le Printemps Arabe
หลังจาก Le Printemps Arabe มาร์เลцьยังคงสร้างดนตรีและแสดงคอนเสิร์ตทั่วโลก
เขาได้กลายเป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งของสิทธิพลเมือง และมักจะใช้เพลงของตนเพื่อส่งข้อความเกี่ยวกับความยุติธรรม ความเท่าเทียม และการต่อต้านอำนาจ專制
แม้ว่า Le Printemps Arabe จะยังไม่บรรลุเป้าหมายทั้งหมด แต่ก็ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจำนวนมากทั่วโลก